เริ่มเดินทางวันที่ 183

วันนี้มี New Action ครับ

อย่างแรกเลย ผมตัดสินใจคัทลอส AAV ราคาปิด ไป แล้ว แม้ว่าโดยกราฟไม่ใช่เวลาที่สมควรขายก็ตาม แต่โดยพื้นฐานของการเข้าซื้อที่ซื้อเพราะโลภ และโดยพื้นฐานกับการเติบโตของบริษัท ที่ในมุมมองของผมว่ายังมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็น่าสนใจถ้ามีรูปแบบการขยายกิจการที่รองรับการเปิด AEC ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนกิจการ แต่โดยส่วนตัวผมมองว่าไม่ง่าย

อนึ่งในอีกมุมมองหนึ่ง เวลาที่ตลาดผันผวนแบบนี้ ผมว่าเป็นโอกาสที่เราจะเปลี่ยนหุ้น ถือเงินสด เพื่อรอซื้อหุ้นที่มีราคาลงตกมาจากที่มันควรจะเป็น หรือถ้ามีอะไรบางอย่างที่เราเห็นว่าไม่ชัดเจน

ซื้อเฉลี่ย CPF เหมือนเดิมครับ 31.50 ไม้ 3 แล้ว เหลืออีก 2 ไม้ ผมตั้งคัทลอสไว้ 29.75 ว่ากันไป หรือหลุดแนวรับสำคัญผมนั้นเอง ถ้าหลุดราคานี้นิ..อาจจะอันตรายกว่าที่หลายคนคิด แม้พื้นฐานของหุ้นไม่เอื้ออำนวยเลย..ให้ราคาลงมาขนาดนั้น แต่อารมณ์ของนักลงทุนนั้นคาดเดายาก ประกอบกับผมก็ไม่ได้รู้ว่า บริษัทในลักษณะแบบเดียวกันของต่างประเทศที่ดี เขาซื้อกันที่เท่าไหร่ มีวิชั่นยังไง *-*

Sorkon ซึ่งตั้งคัทลอสและล้างหุ้นไว้ที่ 77.50 เกือบจะได้ล้างแล้ว 555 *-*

สุดท้ายสำหรับบทความวันนี้ " Low RisK Low Profit With Happiness "

ระบบที่ 1 คือกลับตัว
1.AS
ระบบที่ 2 คือ ย่อตัวและดีดกลับ
2.MJLF PL SWC TIES TNDT TRUE TSC TWZ
ระบบที่ 3 คือ มาแรงไปตามเทรน
3.GLAND GOLD IHL JUBILE THCOM TIW TTTM TTW

BreaK out
1.IHL PE

มาดูหุ้นในพอร์ตเบาๆ

BGH

CPF

DTAC

JAS

SORKON

เริ่มเดินทางวันที่ 182 ( Mark-douglas )

ช่วงนี้ผมแต่บทความเรื่องแนวคิดจิตวิทยาการลงทุน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าช่วงนี้ผมค่อนข้างจะทุ่มเทให้กับรูปแบบการของเทรดเดอร์ มากกว่า Investor เนื่องจากผมไม่อยากจับปลาสองมือ เล่นมั่วๆผสมกันสองทาง ถึงแม้จะมีหลักการของ พื้นฐาน และการมองวิเคราะห์แบบใหญ่แบบเปิดโลกกันไปเลยทีเดยวผสมอยู่บ้างแต่รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นไประบบของเทรดเดอร์มากกว่า

วันนี้ได้มีโอกาสอ่านบล็อคจาก http://2binvestor.blogspot.com อีกครั้ง

และก็ได้พบกับบทความดีจาก mark-douglas อีกรอบ ซึ่งมีประโยนโดนใจผมอยู่ช่วงหนึ่งกล่าวว่า

มีตอนหนึ่งของบทความกล่าวไว้ว่า

mark-douglas กล่าวว่ามี
ความกลัว 4 ชนิด นั่นก็คือ ความกลัวที่จะผิดพลาด ความกลัวที่จะขาดทุน ความกลัวที่จะพลาดโอกาสไป และสุดท้ายคือความกลัวที่จะปล่อยให้กำไรหลุดลอยไป ซึ่งเขาพบว่า ความกลัวทั้ง 4 ชนิดนี้คือตัวการหลักๆที่ทำให้เราทำในสิ่งที่ผิดในการเก็งกำไรมากกว่า 90% ซึ่งความกลัวดังกล่าวมันถูกบ่มเพาะมาจากวัฒนธรรมและสังคมของพวกเราเอง มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครสักคนจะเติบโตมาโดยไม่เคยเรียนรู้ที่จะต้องกลัวบางสิ่ง

ผมพบว่าผมไม่ค่อยกลัวขาดทุนเท่าไหร่เพราะผมค่อนข้างจะสติ๊กกับการคัทลอสพอสมควร
ผมพบอีกเช่นกันว่าผมไม่กลัวที่จะพลาดโอกาสไป เพราะผมเชื่อว่าโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อถ้าเราพร้อมรับมือมัน แม้บางทีผมจะเซ็งๆกับการที่ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปหลายครั้ง
ผมพบอีกว่าผมไม่กลัวที่จะปล่อยให้กำไรหลุดลอยไป ผมจำได้ว่าผมจะซื้อ TMW ที่ราคา 24 ซึ่งนั่งจ้องมั่งทั้งวันรู้ทั้งรู้ว่ามันขึ้นแน่แต่ผมก็ไม่ซื้อ และผมก็เคยจำได้ว่าผมจะขาย JAS ที่ 3.4X กว่า แต่ไม่ได้ขาย
ผมว่าบทสรุปของค่อนข้างง่าย ผมกลัวความผิดพลาด

บางทีการกลัวความผิดพลาด ในข้อสุดท้ายอาจจะมีหลายองค์ประกอบมากกว่า 3 ข้อที่เหลือก็ได้ ซึ่งผมยอมรับว่าการเปลี่ยนความเชื่อข้อนี้ค่อนข้างยาก อาจจะเพราะผมมี Ego ติดตัวค่อนข้างสูง บางทีอาจจะต้องละทิฐิมั้ง ยึดมั่น ถือมั่น มากไป มีแต่เสีย

หรือบางที่เราจะลืม วิมังสา เราลืมที่จะสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา เมื่อผมสามารถเทรดได้กำไรค่อนข้างสูงในระยะเวลาไม่นาน อาจจะทำหลงลืมตัวก็ได้ เป็นไปได้สูงมาก

ผมสรุปจากบทความที่ได้อ่านมาแล้ว

จริงๆสิ่งที่เราเจอไม่ได้ทำให้เรากลัวนะครับ แต่การที่ไปยึดติดว่าสิ่งนั้นสมควรจะเป็นไปแบบที่เราต้องการ เมื่อไม่เป็นไปตามที่เราคิดเราจิงมี มุมมองด้านลบต่อสิ่งหนึ่ง

ยกตัวอย่าง ผมถามว่าถ้าคุณมีเงินในพอร์ตทดลอง 5 ล้าน บาท คุณเล่นเสีย 2 ล้าน บาท คุณกลัวไหม ผมตอบได้เลยว่าคุณจะไม่กลัวอะไรหรอก คุณก็แค่รูุ้สึกว่า โชคชะตาไม่เข้าข้างคุณ คุณแค่พลาดไปเท่านั้น หรือถ้าโชคดีคุณอาจคิดได้ว่า เรายังต้องพืฒนาฝีมือขึ้นไปอีก

ที่เราไม่รู้สึกกลัว เพราะว่าเราไม่ได้ยึดถือสิ่งดังกล่าวว่าเป็นของเรา เสียก็ไม่ใช่เรา ได้ก็ไม่ใช่เรา แต่มุมมองของเราจะมองว่าพลาดโอกาส สะมากกว่า

ทว่า ผมให้พอร์ตแค่ 1 แสน พอ ถ้าสมมุมติ เทรดไปพักนึงแล้วขาดทุนสักหมื่นก็เริ่มมึนแล้วครับ เชื่อผมสิ ลองไปคิดเอาเองแล้วกันว่าเพราะอะไร

หรือจริงๆแล้ว ความกลัว เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเองน๊า ^^

สุดท้ายสำหรับบทความวันนี้ " Low RisK Low Profit With Happiness "

วันนี้มีนิว Action ครับ รับ Sorkon มาที่ 79.50 และ Cpf ที่ 31.75

ระบบที่ 1 คือกลับตัว
1.SE-ED MATI
ระบบที่ 2 คือ ย่อตัวและดีดกลับ
2.UPOIC TISCO SPF SALEE *PG CPNRF CFRESH AOT
ระบบที่ 3 คือ มาแรงไปตามเทรน
3.TWP TPA TKT QTC MJD DELTA ASIA

BreaK out
1.RS SUC TIC

มาดูหุ้นในพอร์ตเบาๆ

AAV

BGH

CPF

DTAC

JAS

SORKON

เริ่มเดินทางวันที่ 181 ( เทรดเดอร์กับหนึ่งคำถาม )

ช่วงนี้ผมชอบนั่งอ่านบทความการลงทุน ตามเว็บต่างๆพอดีคิดไปมา ย้อนถึงอดีต

นับตั้งแต่ SPALI TUF ต่อด้วย ADVANC INTUCH THCOM ตามด้วย BJC EASTW BANPU ที่ไม่ซื้อไว้ตอนนั้น และอีกหลายๆตัว รวมทั้ง TUF(อาจจะลงหนักต่อ) ในวันนี้

ซึ่งในขณะนั้นผมจำได้ดีทุกตัวว่า "มันเป็นขาลงแล้ว จะซื้อที่เท่าไหร่" ซึ่งต้องยอมรับว่าจากความคิดนี้ น่าจะเป็นต้นเหตุให้ผมไม่ได้ซื้อหุ้นไหนสักตัวไว้เลย เมื่อมามองคิดอีกการซื้อที่ตั้งเป้าจะซื้อที่ราคาต่ำสุดนั้นคงเป็นไปได้ยาก เมื่อราคามันลงมาถึงจุดนึง ผมก็ขยับเป้าจะลงไปซื่อที่ราคาต่ำกว่า ลงไปเรื่อยๆ เอาเป้าลงไปเรื่อยๆสรุปไม่ได้ซื้อสักที และการทำแบบมันเป็นการปิดกั้นตัวเองไม่ให้ซื้อหุ้นที่ราคาอยู่ในช่วงขาลง หลังการปรับขึ้นมาพักใหญ่ โดยที่หุ้นเหล่านี้นั้นในภาพรวมส่วนมากมักจะเป็นหุ้นที่เป็นเทรนขาขึ้น ซึ่งแน่นอนราคามักแกว่ง ขึ้นๆลงๆ เป็นระยะ

ทีนี้ผมเลยอยากจะลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เป็น เป็นซื้อแบ่งไม้ ซึ่งผมวางไว้ไม้ละ 20% 5 ไม้ 100% พอดี ในช่วงขาลงซึ่งระบบบอกว่ากำลังจะลงสุด แต่อาจจะลงไปสุดอีกก็ได้ ซึ่งก็ต้องทำใจเนื่องจากมีความเสี่ยงที่ว่าราคาอาจจะลงไปมากกว่านั้นอีกก็ได้ ซึ่งผมตั้ง STOPLOSS ไว้ที่ 5% สำหรับดีลการซื้อขายที่วางระบบไว้ล่วงหน้าแล้ว


ผมตั้งเป้าไว้สองตัวคือ CPF ซึ่งกรอบผมคือ 29.75 - 31.75 ผมเลยจะตั้งแบ่งไม้ซื้อตั้ง 30 - 32 พยายามให้เฉลี่ยนราคาที่ 31. นิดๆ ก็น่าจะเป็นที่น่าพอใจแล้ว และ TUF อีกหนึ่งซึ่งผมตั้งไว้จะซื้อที่ 68 - 70 ก็ว่ากันไปตนับ

น่าแปลกที่ผมไม่คิดที่จะซื้อหุ้นเมื่อมันมีเทรนชัดเจน หรือ เริ่มกลับแล้ว อะไรทำให้ผมคิดแบบนี้น๊ะ น่าแปลกใจ หรือ เพราะผมกลัวเสียกำไร รึป่าว อันนี้น่าคิดผมต้องขอเวลาพิสูจน์บททดสอบข้อนี้อีกระยะหนึ่ง

ขอบคุณบทความดีๆจาก 2binvestor
เทรดเดอร์คนหนึ่งกับคำถาม "ทำไมพ่อถึงไม่รวยซักที?"

Martin Schwartz สุดยอดเซียนหุ้นระดับตำนาน

และบทความสำคัญตัดออกมาที่อยากให้เทรดเดอร์และนักลงทุน ทุกคนได้อ่านและคิดตาม

นอกจากนี้เขาได้พูดถึงสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ในตลาดขาดทุน ว่าเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ชอบที่จะเสียเงินมากกว่ายอมรับว่าตัวเองผิด พวกเขาต้องการจะปกป้อง ego ของตัวเอง แต่สำหรับ Schwartz เขาบอกว่าเขาสามารถทำกำไรจากตลาดได้ ตั้งแต่ที่เขาสามารถพูดกับไอ้เจ้า ego ของเขาว่า การทำเงินสำคัญมากกว่ามัน และเขาไม่มีวันยอมเสียเงินซักแดงเดียวเพื่อที่จะปกป้อง ego เด็ดขาด !!!!

ผมมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองจากการอ่านบทความข้างต่นนี้ ผมมี Ego หนึ่งที่คิดว่า ผมสามารถหาจุดต่ำสุดของการแกว่งของราคาหุ้นได้ทำให้ผมไม่ยอมซื้อสักที เพราะกลัวไม่ได้ซื้อที่จุดต่ำสุด ทำให้สุดท้ายผมไม่ซื้อสักที นี้อาจเป็นความโชคดีของผมรึป่าวที่มาเจอบทความนี้ก่อน ยังไงก็แล้วแต่ผมคิดว่า การนำข้อผิดพลาดในอดีตคิดวิเคราะห์ ปรับปรุง ทัศนคติและวิธีการ น่าจะทำให้มีความสุขในการลงทุนมากขึ้น

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ขาย AAV ออกไปเพราะ Ego คงไม่อยากยอมรับความผิดของตัวเอง แม้เลือกความเสี่ยงที่สามารถรับได้ประมาณ 6% ของพอร์ตตอนนี้ ถือว่ายีงโชคดีอยู่มากที่สามารถเลือกจัดการเงินลงทุนได้ถูกเวลา ^^

"Low Risk Low Profit With A Smile"

ระบบที่ 1 คือกลับตัว
1.GOLDPF MAJOR SUSCO
ระบบที่ 2 คือ ย่อตัวและดีดกลับ
2.BOL BROOK ECL HANA IFS KBANK NNCL SENA SSSC SUC TK TPP
ระบบที่ 3 คือ มาแรงไปตามเทรน
3.AYUD BCP BECL BMCL FOCUS GLAND GLOBAL GOLD MONTRI MTI PREB SVI TCJ TMB

BreaK out
1.AH KCE KK MDX PHATRA RATCH SITHAI STPI

มาดูหุ้นในพอร์ตกัน

Sorkon น่าซื้อเพิ่มจริงๆ

วันนี้ซื้อ CPF ที่ 32.00 มานะครับ 1 ไม้ เฉลี่ยๆไปเรื่อยจนครบ ไม่รู้ตอนไหน ^^

AAV

BGH

CPF

DTAC

JAS

SORKON

เริ่มเดินทางวันที่ 180 ( สรุปครึ่งปีแรก )

สำหรับครึ่งปีแรก ผมจะย้ำหนึ่งสิ่งเท่านั้นให้เราได้คิดกัน

ผ่านมาครึ่งแล้วครับ นับแต่วันที่กลับเข้ามาอีกรอบ

ไม่รู้โชคดีหรือป่าว

* พอร์ตเริ่มต้น + ที่เข้ามาทุกเดือน ตอนนี้ได้กำไร Realprofit + ปันผล มาประมาณ 8% ปันผลใช้หมดสรุปได้มา 6% ของพอร์ต *-* เอง *

ผมจะไม่พูดถึงหลักการใดๆทั้งสิ้น

จำไว้เสมอ เหตุ เกิดจากเรา ผลก็เกิดจากเรา

ประโยคหนึ่งเดียวอาจมีประโยชน์เหนือกว่าบทความทั้งหมดของผม

"แท้จริงความนึกคิดมิใช่ทุกข์
แต่การไปยึดความนึกคิดมาเป็นของตนจึงเป็นทุกข์
ผู้ใดทำใจให้ถึงความเป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง"

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

เช่นเดียวกับความสุขเช่นกัน

ผมอยากให้ลองคิดดีๆ กับ วลี นี้

บางทีนี้อาจเป็นหลักการสำคัญที่หลายคนหลงลืม

เอาเป็นว่าๆเบาไว้เท่านี้ก่อน

มาสรุปกันดีกว่าว่าผมเป็น นักลงทุน แนวไหนกันแน่

ผมดูๆไปแล้ว ผมว่าผมไม่ใช่แนว VI เพราะถึงจะอ่านงบการเงินจะฟังการสัมภาษณ์ และอีกหลายๆอย่าง

แต่ผมก็ไม่ทนถือหุ้นติดลบได้นาน ส่วนหนึ่งเพราะผมมีจุด SL ซึ่ง บางครั้งก็มีหลุดๆบางเหมือนกัน

ทีนี้มาดูวิธีการเทรดของผมบ้างนะครับ

1.ผมค่อนข้างชัดเจนเรื่องการเทรด ต้องมีจุดระดับราคาที่น่าสนใจ
2.ผมมี Stoploss ที่ประมาณ 5% และจะถือทนกำไรจนขายออกเมื่อราคาถึงระดับ RSI หรือ มีสัญญาณแปลกๆ โดยไม่สลับหุ้นเปลี่ยนตัวเล่นกลางคัน
3.ผมจะเลือกเทรดหุ้นที่เป็นหุ้น เติบโต ปัจจัยภายนอกกระทบน้อยและในบางครั้งก็เทรดตามข่าวบ้าง ซึ่งโดยส่วนมากตามข่าวจะเป็นข่าวงบการเงินหรือผลประกอบการ
4.ผมถือเงินสดรอในพอร์ตได้แม้นานขนาดไหน ถ้าผมคิดว่าผมยังไม่พร้อมจะทำดีลที่ชัดเจน อาจจะเรียกว่ายังไม่อยากเสี่ยงก็ได้
5.ผมแทบจะไม่สนใจในหุ้นที่ไม่มี การขยายตัวของกิจการในอนาคต แม้ว่าบางทีจะเกิด Story ขึ้นมาบ้าง
6.มองดูผลิตภัณฑ์ของบริษัททุกครั้งก่อนเทรดหุ้น

การเลือกหุ้น
1.มองหาหุ้นที่น่าสนใจ
- บริษัทที่มีการเติบโต สินค้ามีคุณภาพ
- บริษัทสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ( หรือชั่วคราวกรณีมี Story)
- เป็นบริษัทที่การขึ้นลงตามวัฎจักรไม่สูงมาก ( เพราะยังไม่เข้าใจ )
- บริษัทที่จะสามารถขยายตัวได้ดีในอนาคต ( AEC)
- ต้องเข้าใจพื้นฐานโครงสร้างบริษัทเบื้องต้น
- ถ้ามี การฟังวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
2.มองหาหุ้นที่มีราคาเหมาะสม หรือ ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
- เทียบ PE / PBV
- มองจากกราฟ ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิค ( มีประสบการณ์ ) พอสมควร
- ราคาหุ้นไม่ขึ้นไปเกินพื้นฐานไปมาก

ถ้าให้ผมวิเคราะห์จากรูปแบบ วิธีลงทุน ของผม

ค่อนข้างชัดเจนว่าระบบการซื้อ - ขาย เป็น Trader , Speculator หรือ นักเก็งกำไร อย่างชัดเจน
ทว่าผมก็เลือกซื้อ ขาย ในเฉพาะหุ้นที่การเติบโต การขยายตัวและมีแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น

ผมคิดว่าตอนนี้ผมน่าจะยังอยู่่ในขั้นค้นหาตัวเองมากกว่าจะบอกว่าผมเป็นรูปแบบไหนอย่างชัดเจน

แต่เบื้องต้นผมคิดว่าเป็น Growth StocK Trader ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าในอนาคตผมอาจจะเจอประสบการณ์ที่ทำให้ผมเปลี่ยนแนวหรือมีพัฒนาการในทางอื่นไป แต่ในปัจจุบันอยากจะลงบันทึกเก็บไว้เผื่ออนาคตจะได้ย้อนกลับมาดูบ้าง

บางทีเรื่องแบบนี้อาจจะต้องดูกันยาวๆกันต่อไป

ช่วงนี้ผมกลับมาเทรด Forex แบบเบาๆหลังจาก พอร์ตหายไปกว่า 95% เมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา จนต้องมานั่งศึกษาความผิดพลาดกันใหม่หมดเลยทีเดียว ตอนนี้ใช่การรูปแบบการเทรดแบบเดียวกับ ซื้อ-ขาย หุ้น เลย แต่ StopLoss 15% ไม่รู้เยอะไปป่าว - -*

เป้าหมายผม ขอแค่ไม่ขาดทุนรุนแรง *-* ไม่ผิดแผน *-* 20% ต่อปี ก็พอแล้วครับ

ขอจบด้วยประโยคใหม่เพื่อความสุขของทุกคน "Low Risk Low Profit With Smile"

ระบบที่ 1 คือกลับตัว
1.*CPF SE-ED
ระบบที่ 2 คือ ย่อตัวและดีดกลับ
2.*YUASA *TVO TAPAC QTC CSC BAFS
ระบบที่ 3 คือ มาแรงไปตามเทรน
3.VNG TRC ROJNA RATCH POPF FUTUREPF CHUO A

BreaK out
1.SINGER TMW TRC

อัพเดทหุ้นในพอร์ตเบาๆ

AAV

BGH

DTAC

JAS

SORKON

เริ่มเดินทางวันที่ 179 ( วิเคราะห์แบบละเอียด )

เมื่อวานได้มีโอกาสอันวิดีโอไปแล้ว 1 อันนะครับ

ซึ่งจริงๆแล้วผมอยากจะอัดวิดีโอเพิ่มแต่รู้สึกว่า พื้นฐานจะยังไม่แน่นเด่วขนาดจะสอน เดียวอัดไปจะไปทำให้มั่วกันป่าวๆ

จึงต้องขอศึกษาเพิ่มก่อนจะนำมาให้ได้ดูกันในภายหลัง

เอาหุ้นเก่าๆแปะๆไว้มาวิเคราะห์กันหน่อย

สรุป ADVANC ด่านแรก 230 เลยครับ แต่ต้องระวังมันดีดลงก่อนขึ้นใหม่ไว้หน่อย กราฟแบบนี้

ADVANC D * HD * RD เป้าแรก 230 รับแรก 215

ADVANC W *HD *RD เป้าแรก 230 เช่นกัน เป้าต่อไป 262.50 รับแรก 186.50

สรุป BGH ถ้าไม่ Retrace ลงมาและไปตามเทรนเรื่อยๆ ราคา 127.50 น่าจะเป็นต้านสำคัญ

BGH D * HD * RD ราคาเป้า FIbo 138.2 = 127.50 ( ผ่านเป้าแรกไปแล้ว ) รับแรก 95.50

BGH W * HD * RD ด่านแรกไฮเดิม ราคาเป้า Fibo 161.8 = 127.50 ( ผ่านเป้าแรกไปแล้ว ) รับแรก 83.25

สรุป BH สักพักถ้าไม่พักตัวระดับ W คงทะลุไฮเดิม แง่มๆ

BH D * HD * RD ด่านแรกไฮเดิม รับแรก 69.50

BH W ด่านแรกไฮเดิมเช่นกัน รับแรก 70.00

สรุป BANPU จริงๆผมมองพื้นฐานก็ไม่ได้แย่น๊ะ - -* ออกจะดีด้วยซ้ำ

BANPU D * HD * RD รับ 400 ( ต้านจิตวิทยา ) รับแรก 355 / 315 ต้านแรก 500

BANPU W รับ 400 สมควรจะรับอยู่

Cpall SideWay เบาๆ

Cpf * ตัวนี้ไม่พูดแล้วกัน เด่วเป็นประเด็น - -* แต่ผมจะซื้อ 29.75 นะครับ บอกไว้ก่อน - - * อย่าเชื่อผมเด้อ

Cpf D * Hd * Rd รับ 30.00 ( จิตวิทยา ) รับแรก 29.75 ( 31.75 ) ต้านแรก 32.50 ( 34.75 )

Cpf W * Hd * Rd รับแรก 27

สรุป DTAC

DTAC D * HD รับแรก 81.50 ต้านแรก 91.00 เป้าหมาย 100

DTAC W * HD

สรุป EASTW พักฐาน High เดิม กราฟ สวยงาม ถ้าทะลุ High เดิม น่าตาม

EASTW D * Hd

EASTW W เป้า 12 รับ High เดิม

สรุป - มาแบบเดียวกัน Eastw - Hmpro รอดูต่อไป

HMPRO D

HMPRO W

สรุป Intuch ถ้าขึ้นแรงๆอาทิตย์หน้า หลังจากนั้น... อิๆ

Intuch D

INtucH W

สรุป เบาๆ มันเฉื่อยๆชาๆไปตามเทรนเรื่อยๆ - -* คาดเดายาก 55

IVL D

IVL W

สรุป JAS สั้นๆ ต้าน High เดิม รับ 3.38

JAS D * HD * RD * ต้าน High เดิม รับ 3.38

JAS W * HD * RD * ต้าน High เดิม

สรุป KAMART กราฟ สวยๆเบาๆไม่ขออธิบาย

KAMART D

KAMART W

Sorkon W

สรุป Tuf

TUF D

TUF W