วันนี้จะมาพูดถึงความสำคัญของ แผนการขาย(ออก)จากหุ้น
โดยส่วนตัวผมคิดว่าการขายหุ้นออกมานั้น ยากกว่าการเข้าซื้อ และสำคัญกว่าด้วย
เพราะคนเรามักมีความลังเล เข้าข้างตัวเอง โดยพื้นฐานอยู่แล้ว เชื่อผมเถอะ 555
นี้ถ้าผมไม่ไดเข้าใจรูปแบบ การเคลื่อนตัวของ RSI ผมคงมึนเอาง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแน่เลย
และการวางแผนการออกที่ง่ายที่สุดสำหรับผม ก็คือ ออกเมื่อ
RSI หลุด 80 นั้นเอง 555 สั้นๆหน่อยไม่เสี่ยงก็หลุด D ขาย อยากเสี่ยงมาก ก็รอหลุด W ขาย
ส่วนเรื่องการซื้อคืนตอนนอกจาก ระดับ Fibo / Rsi 50 รูปแบบอื่นผมยังไม่ค่อยเข้าใจเลย
ทว่าปัญหามันคือ คาบของเวลาในการออก เพราะไม่รู้ว่าจะใช้ Time Frame ไหนดีๆ
ต้องยอมรับกันก่อนว่าทุกตัวผมเข้า กราฟ D หมด ยกเว้น CPF เข้า กราฟ W อิงกราฟ D
ซึ่งหากเข้าด้วยกราฟ D ก็ต้องออกด้วยกราฟ D หากคิดตามหลักการเทรดง่ายๆ
เพราะไม่งั้นการเปลี่ยนเงื่่อนไขของการขาย จะเปลี่ยนไปและเราก็จะเสียวินัยของเราเอง
ดังนั้น * ผมจึงสมควรจะออกจาก Jas ใน TimeFrame กราฟ D แม้ว่า
มันอาจจะเป็นการเสียโอกาส เสียกำไร หรือ ผิดพลาดในประเด็นต่างๆก็ตาม
แต่โอกาสมีใหม่เสมอผมเชื่อ ดังนั้น Jas หลุด RSI 80 เมื่อไหร่ขายเมื่อนั้น
ต้องยอมรับว่าตอนแรกผมคิดแบบข้างบนจริงๆครับ ไม่เถียงเลย
ทว่าเมื่อทบทวนอีกที ก็ยังคิดไม่ตกว่า
ทำไมเราไม่หยืดยุ่นมักสักหน่อย ....ต้องยอมรับว่าต้องขอใช้เวลาศึกษาอีกสักแปบ *-* 555 เพราะไอข้อความนี้ก็ไม่ต่างจากคำว่าเฮ๊ยมันไม่ลงหรอก 555
สรุปๆแล้วก็คือ คิดแล้วลอง ลองแล้วผิด ก็แก้ไข ไปเรื่อยๆใจเย็นๆ
หุ้นๆมีหลายประเภท หลายอุตสาหกรรม หลายบริษัท
รูปแบบกราฟก็มีหลาย ปรเภทขาขึ้น ขาลง หุ้นปั่น ค่อยขึ้นเป็นเทรน ลงแบบแรง หรือโดดไปเลย ออกข้างก็มี
ราคาหุ้นเกิดจากคนที่ซื้อและขายกัน ฉะนั้นนี้แหละ คือ ความยากของตลาดหุ้น
การพยายามคาดเดาความรู้สึกของมนุษย์ เป็นสิ่งที่เกิดการคาดเดาในระดับมันสมองที่เต็มไปด้วยกิเลสจริงๆ
ถ้าคุณมีสมองเหนือกว่าระดับที่เต็มไปด้วยกิเลสแล้ว ผมว่าคุณคงไม่สนใจตลาดหุ้นแล้วแหละ
เอาให้ง่ายกว่าหน่อย ก็คือ มองโดยปราศจากกิเลส ซึ่งบอกได้ว่าแค่โจทย์ข้อนี้ ก็หินสุดๆแล้ว 5555
โชคดีมีชัยทุกคนครับ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น