" Low RisK Low Profit With Happiness "
"คิดแล้วต้องทำ ก่อนทำต้องคิด"
Process Is More Important Than Result & Success
จากข้อสังเกตุและการซื้อของผมนั้น การซื้อหุ้นโดยใช้กราฟ W จะพบว่ามี Downside ต่ำมากเรียกว่าถ้าเลือกดีๆแทบไม่มีเลยดีกว่า แต่นั้นเฉพาะในภาวะที่ตลาดเป็นกระทิงแบบนี้
โดยถ้าเทียบกับกราฟ D แล้วกราฟ W จะปลอดภัยกว่า แต่ราคาหุ้นจะไปช้ากว่าเพราะ ( เจ้าค่อยๆทำราคาไม่รีบไง 555 )
ด้วยความไม่สบายใจ+ความใจร้อนของผมเองนั้น ถ้าไม่ได้เล่นถือยาวแบบ CPF / BH ผมจะไม่เล่นกราฟ W แล้ว
มันหงุดหงิดเล่น เทคนิค แต่กราฟหุ้นมันไม่ไปวัดกันไปเลยดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าที่ผมเล่นเทคนิคนั้น เพื่อที่จะมี CashFlow เข้ามาในพอร์ต
หรือจะกล่าวง่ายๆคือ ReaLizeD ProfiT นั้นเอง โดยคาดไว้ว่าอยากสักเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งสำหรับเดือนธันวาคมนั้น
10 วันแรกที่ เทรดเทคนิคก็ *-* ทะลุ้เป้าไปพอสมควร แต่พอมากราฟ W มัน ช้าเหลือเกิน ... แน่นอนช้า แต่ปลอดภัย
ดังนั้นผมมองว่าด้วยลักษณะนิสัยผมแบบนี้กราฟ W เหมาะสำหรับเทรดระยะยาวและกับหุ้นคุณภาพด้วย *-* และโดยเฉพาะเมื่อต้องการความปลอดภัยในขณะที่ตลาดเป็นขาลง
โดยสรุป กราฟ W เหมาะเป็นแบบ Holding มากกว่า Trading ด้วยความไม่สบายใจดังกล่าวผมเลย ขายออกไปให้หมดแล้ว มาซื้อของกราฟ D
ปล.เมื่อวาน Bid QLT ไม่ได้ วันนี้ Bid TAPAC-W1 ( Retrace ต่ำมากระวังลงต่อ ) ก็ไม่ได้ วันก่อนนู้นจะซื้อ TNDT ก็ไม่ได้ เลยซื้อ MDX แม่งเลย 5555+ *-*
สรุปกูไม่น่าตั้ง Bid รอเลย ไม่งั้นรวยไปแล้ว แสด - -*เด่วจะมาปรับปรุงระบบใหม่ เป็นซื้อตอน ATO แล้ว
สำหรับรูปแบบพักตัวขาขึ้น ( ระบบ 4 )
หุ้นน่าสนใจรอการกลับตัว
TMW TMI SPPT KYE HTECH HTC
ระบบที่ 1 คือกลับตัว
1.TAPAC-W1 SSC
ระบบที่ 2 คือ ย่อตัวและดีดกลับ
2.-
ระบบที่ 3 คือ มาแรงไปตามเทรน
3.CPN BEC RS
ระบบที่ 4 คือ เริ่มพักตัวขาขึ้น
4.-
มาดูหุ้นในพอร์ตกันบ้าง
BGH
BH
BLAND
CPF
MDX
SCP
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น