วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ก่อนจะเริ่มเดินทางวันที่ X-30

วันนี้ครบรอบ 30 วันการเขียน บทความสบายๆของผมสักที ผมจึงมานั่งทบทวนเหตุผลในการลงทุนของผมอีกครั้งว่าผมต้องการอะไรกันแน่

* ผม "ลงทุน" เพราะผมอยากมีเงินเยอะๆ ซึ่งผมเคยวางเป้าหมายไว้ว่าผมต้องการจะมีเงินเยอะๆ เพื่อ
- ความสุขและความสุข ถ้าถามว่าความสุขของผมคืออะไร ผมในตอนนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้แน่ชัด ผมอาจจะอยากได้บ้านหลังงาม รถคันงาม หรืออะไรที่มันดูดีมีระดับ แต่ถ้าถึงเวลาที่ผมมีเงินเยอะๆขึ้นมาจริง ผมก็ยังไม่แน่ใจว่า ผมจะมีสิ่งของเหล่านั้นไปทำไมกัน หรือบางทีนะ ผมแค่อาจจะ... ก็ได้ ผมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้เมื่อเวลานั้นยังไม่มาถึง
- ผมได้อะไรจากชีวิตที่ผ่านมา ผมพบว่าผมมีนิสัยที่ชอบดึงประสิทธิภาพของสิ่งต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดในด้านที่ผมต้องการ แต่ผมจะจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่น่าเกิดขึ้น
- ผมได้เรียนรู้จากโลกแห่งนี้ว่าที่สุดแล้ว มีเพียงเรา เส้นทางที่เราเดิน และจุดหมายปลายทางที่เหมือนกัน สิ่งที่ทำให้คนแตกต่างกันคือ เส้นทางที่เดินและจุดเริ่มต้นของคนๆนั้นเท่านั้น แต่ดูเหมือนผมจะให้ความสำคัญกับ เส้นทางที่เราเดิน มากกว่าสิ่งใด และเราจะรู้ว่าเรามีคุณค่ามากแค่ไหนเมื่อเวลาที่เราเดินมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
- สุดท้ายผมแค่ทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง ในสิ่งที่ไม่ทราบว่ามีแรงกระตุ้นจากส่วนไหนของหัวใจ รู้เพียงแต่ต้องเดินต่อไป อาจมีหยุดบ้างพักบ้าง แต่เราจะไม่ถอยหลัง เราจะยังคงเดินต่อไป
ณ โอกาส ผมขอขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตผมที่ทำให้ผมมีวันนี้

วันนี้ผมจะมาตั้งกฏในการเข้าซื้อขายหุ้นกัน แต่ผมรู้สึกว่ายังไม่สามารถตั้งได้ในวันนี้ - -* ไม่รู้เพราะอะไร เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาเรียนรู้ STO เครื่องมืออีกตัวกันดีกว่า

เรามีเวปแนะนำ STO Story
STO = STOCHASTIC เป็นเครื่องมือ ( Indicator ) ตัวหนึ่งซึ่งมีสูตรดังนี้


สโตคาสติก = (ราคาปิดวันนี้ - ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่พิจารณา)/(ราคาสูงสุด - ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่พิจารณา)

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าสูตรของ STO เป็นสูตรตายตัวเราจะได้อะไรจากสูตรนี้มั้งมาดูกัน

George Lane บิดาแห่ง Stochastic กล่าวไว้ว่า
Lane ยังได้ให้มุมมองกับเราอีกว่า เขามองว่าเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายอย่างในทุกๆวันนี้ แท้จริงแล้วนั้นสามารถใช้ในการวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม นักเก็งกำไรส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถที่จะไล่ตามดูมันได้หลายๆอย่างๆในทีเดียว และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น

Lane มักที่จะรอสภาวะบางอย่างให้เกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะเข้าทำการเก็งกำไร ยกตัวอย่างเช่น เขาจะรอให้เกิดรูปแบบราคาแบบ Double Top หรือ Double Bottom ขึ้นมาก่อน และเขาได้บอกกับเราอีกว่า “ Volume หรือปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นมานั้น มักจะเบาบางที่จุดต่ำสุดที่สองของ Double Bottom และคุณจะต้องจำไว้ว่า คุณไม่ควรที่จะเข้าซื้อขณะที่ปริมาณการซื้อขายยังมากกว่าเดิมอยู่”

“Stochastics ยังสามารถที่จะช่วยให้คุณเห็นการ Convergence ที่จุดต่ำสุดของตลาด และ Divergence ที่จุดสูงสุดของตลาดอีกด้วย โดยคุณยังสามารถที่จะวิเคราะห์จากรูปแบบของราคาที่เกิดขึ้นมา เช่น การวกกลับของราคารูปแบบต่างๆ มันมีรูปแบบเป็น 10อย่างในการซื้อและการขายเช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเป็นและทำให้ทุกคนรู้จักเขานั่นก็คือ การที่เขาเป็น “บิดาแห่ง Stochastics” นั่นเอง George Lane ได้พูดเอาไว้ว่า “Stochastics คือเครื่องมือในการวิเคราะห์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแนวคิดทาง Momentum ของการเคลื่อนไหวของราคานั่นเอง” และ “มันเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้วิ่งตามราคา มันไม่ได้วิ่งตามปริมาณการซื้อขาย(Volume) หรืออะไรอย่างนั้น แต่มันเป็นเครื่องมือที่บ่งชี้ค่าไปตามความเร็วของการเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่า Momentum ของราคานั่นเอง ซึ่งหลักการก็คือว่า Momentum จะเกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนที่ทิศทางของราคาจะเปลี่ยนไปนั่นเอง”เขายังได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบอีกเช่นว่า มันคล้ายกับการที่เมื่อปล่อยจรวดขึ้นฟ้าไปแล้ว ก่อนที่จรวดจะหักหัวกลับลงมานั้น เราจะเห็นว่ามันจะต้องเกิดการเคลื่อนไหวที่ช้าลงเสียก่อน โดยเขาได้พูดเอาไว้ว่า “การลดลงของ Momentum นั้น จะเกิดขึ้นก่อนที่วัตถุจะเปลี่ยนแปลงทิศทางของมัน” และเขายังบอกอีกว่า “มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางล่วงหน้า และนั่นคือหน้าที่ของมัน มันช่วยในการคาดเดาการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา”“มันกลายมาเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่วิเศษเป็นอย่างยิ่ง มันใช้ได้จริงและเชื่อถือได้ค่อนข้างมาก คุณยังสามารถใช้มันได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นกราฟแบบราย 3 นาที หรือรายวัน หรือรายสัปดาห์ก็ได้”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น