วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

เริ่มเดินทางวันที่ 61 ( IVL REVIEW )

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแบบครบวงจร ซึ่งผลิตและจำหน่าย Purified Terephthalic Acid (“PTA”) Polyethylene Terephthalate (“PET”) เส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ (Polyester Fiber and Yarn) และเส้นใยจากขนสัตว์

- เป็นผู้ผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ
- การเข้าซื้อกิจการที่มีปัญหาในการดำเนินงาน ด้วยราคาที่มีส่วนลดจากราคาต้นทุนทดแทนในการสร้างโรงงานแบบเดียวกัน
- การเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่กว่าและที่มีอัตราการเติบโตสูง
- การได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี การตลาด ลูกค้า แบรนต์ และทรัพย์สินทางปัญญาตัวกิจการที่บริษัทเข้าซื้อ

มีบริษัทย่อย ครอบคลุมใน เอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ ซึ่งเรียกว่าเยอะจนน่าตกใจทีเดียว ลักษณะคล้ายๆ SCC แต่เน้นไปในธุรกิจที่ถนัดเฉพาะด้าน PET แลพ PTA

การจัดตั้งโรงงานจะอยู่ติดหรือใกล้เคียงกับ โรงงานที่สามารถป้อนวัตถุดิบ ให้ได้ เป็นการลดค่าใช้จ่ายเรื่องการขนส่ง

ด้านรายได้เรียกว่าเติบโตชัดเจนแบบก้าวกระโดด โดยมีรายได้หลักมาจากลงทุนใรทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือแน่นอนว่ามาพร้อมปัญหาหนี้สิน ^^

**และเป็นการหลีกเลี่ยงนโยบายการทุ่มตลาดขอสองทวีปดังกล่าวด้วย

- ปัญหาเศรษฐกิจ ปัจจบุันกระทบแน่นอนแต่ผมไม่แน่ใจว่าเยอะไหมในเชิงโครงสร้างธุรกิจ
- งบปี 2554 มีกำไรจากการต่อรองราคาซื้อจำนวน 6,752.6 ล้านบาท ซึ่งผมก็ยังงงๆว่ามันคือ อะไร - -* เรียกว่าเยอะทีเดียว
** ส่วนเกินจากส่วนได้เสียของกลุ่มบริษัทในสินทรัพย์และหนี้สินสุทธิที่ระบุได้ของกิจการที่ซื้อมาที่สูงกว่าต้นทุน (หรือมูลค่าที่รับรู้สูงกว่าสิ่งตอบแทนในการซื้อ) ได้ถูกบันทึกเป็นกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ (ค่าความนิยมติดลบ) ปรากฏในแบบ 56-1 ปี 2554 FINANCIAL
- ** - กล่าวคือ ซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางบัญชีหลังรวมรายการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรม 16752 บาท แต่ใช้เงินซื้อ 10000 บาท จึงเกิดกำไรการต่อรองราคา 6752 บาท นั้นเอง

- งบปี 2554 มีส่วนแบ่งกำไร(ขาดทุน)จากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันสุทธิ 1,314.5 ล้านบาท ลดลงจาก ปี 2553 จากจำนวนเงิน 1,888.2 ล้านบาท
** Supply ของ PTA มากขึ้นทำให้ราคาสินค้าลดลง เป็นผลให้มีส่วนแบ่งรายได้น้อยลง

กำไรซึ่งมาจากการดำเนินงานสำหรับปีนี้ (ตัดกำไรจากการต่อรองราคา ) ควรมีค่าเท่ากับ 18,541.3 - 6,752.6 = 11789 ลดลงนิดหน่อย จาก 12201 เมื่อปี 53 จากปัญหาเศรษฐกิจและปริมาณ Supply ที่มากขึ้น

แต่โดยรวมแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในช่างขาลงของธุรกิจแต่บริษัทก็ยังสามารถทำกำไรได้ดี และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในตลาด PeT

รายจ่าย

- มีการบันทึกการขาดทุนจากการด้อยค่าจากสถานการณ์น้ำท่วม 1,644.7 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น