วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เริ่มเดินทางวันที่ 81 ( วิเคราะห์หุ้น TurnArounD )

วันนี้ก็เป็นอีกวันนะครับที่เราจะมาสรุปประเด็นที่น่าสนใจกัน

ก่อนอื่นขอสรุปความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมานะครับ ที่เห็นจะสำคัญและเป็นประเด็นที่อาจจะทำให้เสียเงินในพอร์ทได้ง่ายๆนั้น คือ ShocK Wave จาก SGP ที่ราคาดิ่งลงหนักทีเดียวเทีบกับผลประกอบการที่ออกมาเล่นเอาผมงงไปเลยทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ ทั้งๆที่จริงสมควรจะ CuT Loss ตั้งแต่ 15.50 ( แนวรับผมวางไว้ 15.60 ) และอีกหนึ่งแง่คิดดีๆคือ ความโลภของคนที่เกิดจาก การประกาศผลงบประจำไตรมาส 1/55 ที่ออกมาดีของหลายบริษัท บางบริษัทนั้นมาจากปัจจยพื้นฐาน ซึ่งสะสมพลังมาจากช่วงน้ำท่วม ทุกบริษัทได้ลดภาษีอีก 7% เหลือ 23% ทำให้ตลาดหุ้นไทยมี DownSide ไม่มาก และบางบริษัทได้รายได้พิเศษมาจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

!!! แต่เดียวก่อนต้องมีคำถามแน่นอนว่าแล้ว ไอที่ออกมาดีๆทั้งหลายมันจะขึ้นไปขนาดไหน ขึ้นแล้วจะลงไหมหรือยังไง อันนี้ผมยอมรับว่าผมก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกัน เพราะหุ้นแต่บะตัวมีเจ้ามือต่างกัน คนเล่นต่างกัน วิธีคิดพื้นฐานและทัศนคติต่อหุ้นก็ตัวนั้นๆก็ต่างกัน

** มาถึงตรงนี้ผมจะเอาหุ้นตัวหนึ่งซึ่งย้อนไปในอดีตเคยขึ้นมาแบบโหดสุด ขอ 2 ตัว ก่อนแล้วกัน **

ตัวอย่าง Jas ครับ เมื่อปลายปี 2010 หุ้น ปรับตัวขึ้นถึง 5 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน


ถ้าย้อนไปดูงบการเงินจะการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนเป็นค่อยไปใน ช่วง 6 เดือนหลัง 2010 ครับ เราไปดูที่หมายเหตุประกอบงบการเงินแยกตามส่วนงาน

จะพบว่าธุรกิจอินเตอร์เน็ตนั้นก้าวกระโดมากซึ่งช่วงนั้น ผมก็เป็นวัยรุ่นเล่นเน็ตทุกวันพอจะรู้ว่าทำไมถึงมาแรง

ไตรมาส 2 / 53


ไตรมาส 1 / 55


ส่วนงานการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้น 1 ปี ครึ่งสามารถทำกำไรโตได้ถึง 200%
ในขณะที่บริษัทลดการลงทุนในส่วนงานการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม ( JTS ) ด้วยอาจจะเห็นการพัฒนาที่ชัดเจนและมั่นคงได้

**สิ่งที่น่ากังลว คือ ภาวะหนี้สินและการฟื้นฟูกิจการที่สามารถผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ผมว่า ณ ราคาระดับนี้ยังไงถือว่าถูกครับ **

อีก 1 ตัว คืนมาลี ครับ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยแน่ใจความเป็นมาของหุ้นตัวนี้เท่าไหร่จนวันนี้ที่ผมจะมาดูจริงๆจังนั้นแหละครับ - -*

MALEE จากกรณที่โดนที่ SP เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนละอาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลังทรัพย์ได้ เพราะมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิในอดีตและทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์

ทีนี้บอกตามตรงว่าผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรนะครับ และยังงงๆกับงบอยู๋เหมือนกันครับ 55

ไตรมาส 1 / 54


ไตรมาส 2 / 54


ไตรมาส 3 / 54



ไตรมาส 1 / 55 ** ดูที่ผมขีดไว้เป็นจุดน่าสงสัย ซึ่งถ้าเรารู้สาเหตุจะเป็ฯประโยชน์อย่างมาก **


น่าสงสัยเหมือนกันนะครับว่า ที่ขายในประเทศได้ดีแบบนี้ เขาใช้กลยุทธ์การตลาดแบบไหนกัน แล้วทำไมยอดขายถึงกระโดดแบบนี้ ถ้าไขข้อสงสัยนี้ได้ก็น่าสนใจลงทุนนะครับ ^^

มาดูกราฟหนูมาลี โหดมันมาก ครบ 1 ปี น่าจะเกือบ 7 เท่า ได้


โอเคครับ จบตัวอย่างไว้เท่านี้ก่อนครับ ^^



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น