"Yon can't Predict , You can Prepare"
"Plan Before Trade and Trade Your Plan"
"Focus on Process To Develop Your Way"
"คิดแล้วต้องทำ ก่อนทำต้องคิด"
_______________________________________
สรุปข้อมูลจากการอ่านข้อมูลบริษัท " ABC " บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน)
1.) ความเห็นส่วนตัว ( เข้าใจยากมาก )
- ดูการบริหารคุณปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ต่อไป
- ไม่มี Website เป็นของตัวเองนะ - -* ( จาก Link Set ) ไม่รู้ยังไงกันแน่
- การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารและรูปแบบธุรกิจจะมีผลยังไงคอยดูต่อไป
- ผมไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาซื้อไปทำไมแพงแล้วบริหารใหม่ - -* มี Asset ซ่อนเร้นหรือป่าว ( ซื้อช่วงตลาดลงด้วย ราคาต่อหุ้น 19.40 บาท ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงทุนด้วยคับ )
* ลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 163.00 ล้านบาท เป็ น 131.70 ล้านบาท เนื่องจากเดิมบริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 100 ล้านบาท เป็ น 163 ล้านบาท ลด พาร์จาก 10 เหลือ 1 แล้วจากนั้นอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 131.70 ล้านบาท เป็ น 210.00 ล้านบาทโดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จํานวน 78.30 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท ด้วยวิธีเสนอขายให้แก่บุคคลภายนอกเป็น
การเฉพาะเจาะจง (PP) จํานวน 78.30 ล้านหุ้น ( เป็นอันงงละสิ ) *
- ยังไม่เห็นความชัดเจนทางธุรกิจเลยคับ
- ดูเหมือนเปลี่ยนธุรกิจไปอสังหาเลย แต่ยังไม่มีผลงานเท่านั้นเองต้องรอดูคับ
* แนะนำให้ลองอ่านงบการปี 56 โดยเฉพาะเรื่องการตีมูลค่าทรัพย์สิน กับ การขายทรัพย์สิน และส่วนผู้ถือหุ้น *
- การตีราคาทรัพย์สินใหม่ถึงจะมีกำไรแต่เป็นตัวเลขทางบัญชีต้องรอดูว่าจะเอาไปทำอะไร
2.) ประวัติความเป็นมาและลักษณะธุรกิจ
* มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารยกชุด * ( เดิมผลิตและจาหน่ายถุงเท้าสาเร็จรูป ปัจจุบันดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ )
- ภายใต้การบริหารจัดการโดยผู้บริหารชุดใหม่ ตามโครงสร้างการถือหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทมี นโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงการประกอบธุรกิจหลักของกิจการโดยจะนา ธุรกิจใหม่ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงมากกว่าเข้ามาแทนที่ และที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556 ได้มีมติ อนุมัติให้ บริษัทเปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักของบริษัทจากธุรกิจเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ เป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ( แต่ผมเห็นยังมีผลิตภุงเท้าขายอยู่นะคับ )
- เดิมชื่อ บริษัท บางกอกไนล่อน จากัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2507 โดยร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มผู้ลงทุนในประเทศไทย กับบริษัทในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จากัด (มหาชน) บริษัท มิตรสยามอินเตอร์เนชั่นแนล จากัด และบริษัท ไทยโทเรซินเทติคส์ จากัด ( ประวัติยาวนาน )
- บริษัทเริ่มดาเนินการผลิต และจาหน่ายถุงเท้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 โดยระยะแรกของการดาเนินกิจการนั้น บริษัทจาเป็นต้องพึ่งพาฝ่ายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
- ในวันที่ 26 กันยายน 2556 บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจานวน 11 ราย ได้ขายหุ้นของบริษัทผ่านกระดานการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการขายหุ้นจานวน 68.57% โดยขายให้กับนายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ในราคาหุ้นละ 19.40 บาท โดยมีรายละเอียดตามตารางด้านล่าง
- ประสบการณ์ของผู้บริหารที่มีความชานาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ( รอดูต่อไป )
* ปัจจุบันขายหุ้นบริษัท สหนาเท็กซ์ไทล์ จากัด ไปหมดแล้ว
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ( ผู้ถือหุ้นเก่าขายหมด )
- ปัจจุบันบริษัทไม่มีบริษัทย่อย และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ( ขาดจากัน )
- บริษัทได้แก้ไขชื่อของบริษัทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจจากเดิมชื่อ บริษัท บางกอกไนล่อน จา กัด (มหาชน) เป็นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จา กัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556
3.) บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ดังนี้
- บริษัทมีเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ หลากหลายรูปแบบ ทั้งโครงการที่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้นและในระยะยาว รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนให้แก่องค์กร และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจประเภทเดียว
4.) ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการ
- 1. ถุงเท้า ( เลิกผลิตแล้ว ) : ส่วนใหญ่เป็นถุงเท้านักเรียน ถุงเท้าธุรกิจ และถุงเท้ากีฬา ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่เป็นของลูกค้า หรือลูกค้าเป็นตัวแทนจำหน่าย ส่วนถุงเท้าที่ผลิตให้กับลูกค้าต่างประเทศ จะมีลักษณะเป็น CASUAL SOCK ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของบริษัท
- 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : บริษัทซื้อห้องชุดในโครงการอาคารชุดบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ จานวน 19 ยูนิต มูลค่าเท่ากับ 29.23 ล้านบาท เพื่อขายต่อไป ( ทำอย่างกับเก็งกำไรอสังหา )
- โดยในปี 56 ที่ผ่านมาบริษัทลงทุนในโครงการห้องชุด โดยเหมาซื้อห้องชุดที่เหลืออยู่จานวน 19 ยูนิต ในโครงการบ้านนวธารา ริเวอร์ไลฟ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยประเสริฐมนูกิจ 33 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะจาหน่าย และโอนกรรมสิทธิ์ได้หมดภายในปี 2557
5.) จุดแข่งขันเรื่องสินค้า
- ถุงเท้า ( เลิกผลิตแล้ว ) : เน้นความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทคู่ค้า และ ส่งออกไปยังตลาดใหญ่ที่มีอุปสงค์มาก ( เลิกผลิตแล้ว )
- อสังหา : ต้องรอความชัดเจนคับ
6.) กลยุทธ์ทางการตลาด
- ผลจากการแข่งและภาวะตลาดซบเซาบริษัทต้องหยุดการผลิตชั่วคราวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 และประกาศเลิกว่าจ้างพนักงานทั้งหมดในวันที่ 31 มกราคม 2556 แต่บริษัทยังคงดาเนินการผลิต และจาหน่ายเฉพาะสินค้าตามคาสั่งซื้อที่รับมาล่วงหน้า
- บริษัทมีผลการดาเนินงานขาดทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ด้วยสาเหตุมาจากค่าใช้จ่าย และต้นทุนการผลิตต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ค่าจ้างแรงงานขั้นต่าที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เป็นต้น
- ภายหลังจากมีชุดบริหารชุดใหม่ได้เปลี่ยนไปปกระกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และกระจายไปยังธุรกิจอื่นๆเพื่อสร้างความมั่นคง
7.) งบการเงินและการบริหาร
- ล้างสินค้าเก่า จัดการการเงินแล้วว่ากันใหม่ ( ทำนองนั้น )
- ผลกาไร(ขาดทุน)จากการตีมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ จำนวน 229,530,912.68 บาท ในปี 56 นั้น
- สินทรัพย์หมุนเวียนของบริษัทลดลง 135.4 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 73.73 จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของลูกหนี้การค้า และสินค้าคงเหลือ ได้แก่ ถุงเท้าสาเร็จรูป วัตถุดิบ และวัสดุสิ้นเปลือง เนื่องจากบริษัทมีแผนในการดาเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แทนการดาเนินการผลิตถุงเท้า
- สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนของบริษัทเพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท จากปีก่อน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การวัดมูลค่าที่ดิน อาคาร จากวิธีราคาทุนเป็นวิธีการตีราคาใหม่ เพื่อให้ที่ดิน และอาคารแสดงมูลค่ายุติธรรมส่งผลให้ที่ดิน และอาคารเพิ่มขึ้น 229.53 ล้านบาท
8.) สรุปจากข้อมูลสารสนเทศ
- มองว่าเริ่มใหม่หมด ต้องรอดูผลงาน
9.) การจัดการความเสี่ยง , ภาวะตลาด ต้นทุน การแข่งขัน
- ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ( 300 บาท ด้วย ) และผู้รับเหมา
- ต้นทุนการดาเนินธุรกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น
- การตั้งโรงงานทำให้มีภาระเรื่องการจัดการผลกระทบสภาพสิ่งแวดล้อม
- ความเสี่ยงจากการเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ ( ทำการแบรนด์ต่อลูกค้า )
- ความเสี่ยงจากราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงานที่สูงขึ้น
10.) ภาพรวมการบริหารจัดการ
- มองว่าเริ่มใหม่หมด ต้องรอดูผลงาน
11.) รวมข้อมูลบทวิเคราะห์จากมุมมองต่างๆ
- ไม่มี
12.) กราฟหุ้น
_______________________________________
Money Management - เปลี่ยนไปเป็นระบบ Step By Step Position Sizing - Low Risk Trade
WATCH LIST - ADVANC BGH BJC CPALL CPN QTC TISCO TVI
SET
หุ้นน่าสนใจรอการกลับตัว
ระบบที่ 1 คือ กลับตัว
1.
ระบบที่ 2 คือ มาแรงไปตามเทรน
2.
ระบบที่ 3 คือ ย่อตัวขาขึ้น
3.
มาดูหุ้นในพอร์ทกันบ้างครับ
ASP
JAS
SCP
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น