สรุปข้อมูลจากการอ่านข้อมูลบริษัท " AJ" : บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) : อุตสาหกรรมแผ่นฟิลม์การบรรจุภัณฑ์
1.) ความเห็นส่วนตัว
- การเพิ่มและขยายตัวของผู้ผลิตแผ่นฟิลม์ทั้งหลายจะเป็นปัญหาหรือไม่
- การประกอบธุรกิจของบริษัท ซึ่งอิงกับอตุสาหกรรมบรรจุภัณฑ์นั้น ต้องดูภาวะเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย
- โดยรวมมองว่าตลาดบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
* เม็ดพลาสติกเป็นสินค้า commodity ตัวธุรกิจเองก็เป็น commodity cyclical ฉะนั้น แนะนำให้ศึกษาเรื่อง Tight Supply กับ Over Supply เป็นพิเศษ
* สรุปเบ็ดเตล็ดอื่นหรือจุดที่น่าสนใจ *
- เป็นผู้นำตลาด BOPET และ BOPA โดยได้เปรียบผู้ผลิตต่างประเทศเพราะมีภาษ๊นำเข้า
- คู่แข่งในประเทศ PTL TFI
- ปี 56 ได้รับผลกกระทบจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งอุปทานที่มากขึ้นทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา
- บริษัทได้เตรียมตัวสำหรับ AEC โดยได้เพิ่มกำลังการผลิตแผ่นฟิลม์ จากกำลังผลิต 125800 ตัน ต่อปี เป็น 232800 ตัน ต่อปี
- ปี 56 ราคาขายลดลงเมื่อเทียบ ปี 55 แต่มียอดขายมากขึ้นทำให้รายได้มากขึ้น
- การน้ำเข้าวัตถุดิบจากเขตการค้าเสรี ASEAN-CHINA และ ASEAN-KOREA ซึ่งได้รับการลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ทำให้สินค้นต้นทุนต่ำและสามารถแข่งขันกับรายอื่นได้
2.) ประวัติความเป็นมาและลักษณะธุรกิจ
- บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2530 ด้วยทุนจดทะเบียนหนึ่งล้านบาท โดยนายณรงค์ สุทธิสัมพัทน์ เป็นผู้ก่อตั้ง (แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อ 3 พฤษภาคม 2537) เพื่อผลิตและจำห่นายแผ่นฟิลม์ BOPP โรงงานแห่งแรกตั้งอยู่เลขที่ 19/111 หมู่ที่ 7 ถนนท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ (เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553 เปลี่ยนที่อยู่เป็น 95 ถนนท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร) ต่อมาได้ย้ายโรงงานไปตั้งอยู่ที่การนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื่องจากสถานที่เดิมมีความคับแคบไม่สามารถขยายฐานการผลิตในอนาคต อีกทั้งโรงงานใหม่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง และอยู่ใกล้กับแหล่งผลิตวัตถุดิบเม็ดพลาสติก Polypropyleneในจังหวัดระยอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้มาก
- ต่อมาจึงได้ขยายกำลังการผลิตและแตกย่อยไปฟิลม์ยังประเภทอื่นๆด้วย
- บริษัทฯ ไม่มีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมแต่อย่างใด
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิลม์ภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น
- BOPP Film, BOPET Film, BOPA Film (Nylon)และ Metallized Film
โดยในปัจจุบันนี้บริษัทมีกำลังการผลิต
BOPP Film 104,000 ตันต่อปี
BOPET Film 62,000 ตันต่อปี
BOPA Film 18,000 ตันต่อปี และ
Metallized Film 10,800 ตันต่อปี
- ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนกึ่งสำเร็จรูปซึ่งลูกค้าจะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปใช้ในการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้บรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ซองบรรจุอาหาร
และขนมขบเคี้ยว ซองบรรจุเสื้อผ้า ซองบรรจุดอกไม้ใช้ทำเป็นกระดาษห่อของขวัญนำไปเคลือบกระดาษเคลือบผิวไม้ฉนวนป้องกันความร้อนภายในอาคาร ฉนวนไฟฟ้า อุตสาหกรรมชนิดน้ำ (Liquid) และอาหารแช่แข็ง เป็นต้น
3.) โครงสร้างผู้ถือหุ้นและบริษัท , Market Cap , การดำเนินงาน
ผู้ถือหุ้น
โครงสร้าง
- รายได้แต่ละธุรกิจ
- งบการเงิน , สภาพคล่อง
- อัตราส่วนการเงิน
- กระแสเงินสด
4.) วิสัยทัศน์และพันธกิจ
เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตแผ่นฟิล์มพลาสติก และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบริษัทที่ทำการพัฒนาในด้านการผลิตแผ่นฟิลม์พลาสติกและลงทุนอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์
- คุณภาพระดับมาตรฐานสากล
- ราคาที่เหมาะสม
- บริการสินค้าครบวงจร
- มุ่งสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า
- มีบริการหลังการขาย
5.) ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการ
ลักษณะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แบ่งเป็น
- โรงพิมพ์ โรงงานผลิตถุง และบรรจุภัณฑ์อื่นๆ
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์
6.) จุดเด่นของบริษัทและกลยุทธ์ทางการตลาด
- มีประสบการณ์ยาวนานในการดำเนินงาน
7.) ภาพรวมการบริหารจัดการ
- ธุรกิจรับจ้างผลิต โดยอยู่ระหว่่างขยายบริษัท ต้องไปลงลึกในเรื่องภาวะอุตสาหกรรม และปัญหา Over Supply
8.) การจัดการความเสี่ยง , ภาวะตลาด ต้นทุน การแข่งขัน
- ความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบและการขาดแคลนวัตถุดิบ
- ความเสี่ยงเกี่ยวกับการพึ่งพาผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบรายใหญ่ บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ ร้อยละ 51.48 IVL ร้อยละ 25.21 และ บริษัท โซจึทสิ (ประเทศไทย )ร้อยละ 10.51 ของยอดซื้อรวมตามลำดับ
- ความเสี่ยงในด้านการค้าระหว่างประเทศจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด
- ความเสี่ยงด้านการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน
- ความเสี่ยงด้านการบริหารและการจัดการโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่
- ความเสี่ยงด้านการเงิน กรณีการมีเงินกู้ยืมจำนวนมาก
9.) รวมข้อมูลบทวิเคราะห์จากมุมมองต่างๆ
-
10.) กราฟหุ้น
_______________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น