ก็มาอบรมบมนิสัยตัวเองกันหน่อยครับ
เอาเบาๆซึ่งอ้างมาจากบทความเดิมๆของผมแล้วกัน
ฝากไว้อีกสิ่งสำหรับการประกอบอาชีพ จาก dharma-gateway
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
" ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ถามตัวเองว่า
ที่จะพูดนี้จำเป็นหรือเปล่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าพูด
นี่เป็นขั้นต้นของการอบรมใจ
เพราะถ้าเราควบคุมปากตัวเองไมได้
เราจะควบคุมใจได้อย่างไร "
ตรงนี้เป็นการสร้างสติให้อยู่กับตัวเองนะครับ
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า
" อานนท์ปฎิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย ด้วยทฤษฎี ด้วยการคาดคะเนหรือด้วยการถกเถียงกันหรือจะอยู่เฉยๆไม่ปฎิบัติภาวนาเลย ความสงสัยก็หายไปไม่ได้อีกเหมือนกัน ( กิเลส..จะหายสิ้นได้ก็ด้วยการพัฒนาทางจิต..ซึ่งจะเกิดได้ก็ด้วยการปฎิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น .. )
เมื่อเรา "รู้อารมณ์" เราก็ไม่ทะเลาะกับอารมณ์ไม่สนใจใน "อารมณ์ "
หลวงปู่ชา
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราพิจารณาเหตุทั้งหลายในปัจจุบัน เท่านี้ก็พอแล้ว ถ้าปัจจุบันเราสร้างเหตุไว้ดี อนาคตมันก็จะดีด้วย อดีตคือวันนี้ที่ผ่านไป มันย่อมดีด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเราหมดทุกข์ได้ในปัจจุบันนี้แล้ว อนาคตคือชาติหน้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึง”
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
"..อธิษฐานความตั้งใจไว้ว่าจะทำ ต้องทำจริง ๆ
ได้มากก็ไม่ว่า ได้น้อยก็ไม่ว่า อย่าให้มันขาดสัจจะ.."
หลวงปู่ขาว อนาลโย
"จำไว้นะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา
กรรมมันอยู่ที่ผู้พูด ไม่ใช่อยู่ที่เรา
ไม่ต้องไปรับมาใส่ใจ"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"..เพียรพยายามสิ่งใดอย่างไม่ลดละ สิ่งนั้นต้องสำเร็จ
ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม.."
พระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
โจรปล้นไม่เหมือนความเกียจคร้านปล้น
โจรปล้นเรายังหาทรัพย์ได้
ความเกียจคร้านปล้น เท่าวันตายเราก็ไม่มีทรัพย์
หลวงปู่สาย เขมธัมโม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น