วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ก่อนจะเริ่มเดินทางวันที่ X-27 ( RSI )

วันนี้ได้อ่านบทความต่อไปเรื่อยๆใกล้จะจบแล้วแต่ผมก็ยังงๆ อยู่ ผมคงจำได้ว่า RSI คือ ค่าการเฉลี่ยระหว่าง ได้/เสีย และด้วยสัดส่วนต่างๆที่แสดงออกมามีคนนำไปวิเคราะห์หาเหตุผลและความน่าเป็นมากมายซึ่งผมคิดว่า เราละเลยจุดสำคัญหนึ่งของ RSI ไปคือ มันเป็นสูตรทางตัวเลขที่แสดงค่าออกมาเป็นรูปแบบ ซึ่งเป็นค่าที่ตายตัว จริงๆเราน่าจะมองให้มันง่ายๆน๊ะ ว่า

1.RSI เยอะก็แปลว่าเฉลี่ยก่อนหน้านี้มันได้เยอะกว่าเสีย
2.RSI น้อยก็แปลว่าเฉลี่ยก่อนหน้านี้มันเสียเยอะกว่าได้

ซึ่งสำหรับผม ผมคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆน๊ะ - -* โอเคจบก่อนสำหรับความคิดเห็นผมในส่วนนี้ ต่อไปเป็นกฏที่ JH ได้แนะนำ

Rule # 4
An Uptrend is indicated when:
1 . RSI is in the 80/40 range
2. The chart shows simple bearish divergence
3. The chart shows Hidden bullish divergence
4. The chart shows Momentum Discrepancy Reversal Up
A Downtrend is indicated when:
1 . RSI is in the 60/20 range
2. The chart shows simple bullish divergences.
3. The chart shows Hidden bearish divergence
4. The chart shows Momentum Discrepancy Reversal Down.

สำหรับบทต่อไปที่ผมจะอ่านเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่าง ราคา กับ ระดับ RSI RetracemenT และผมพบว่าผมไม่ค่อยได้อะไรจากบทความนี้

มาถึงบทสรุปของเรื่องนี้กันเลย ซึ่งแน่นอนผมเป็นคนสรุปเอง

1.ข้อเท็จจริงของ RSI คือ เครื่องมือที่มีสูตรคำนวณ 100 - 100 / ( 1+ RS ) หรือ R*U/U+D นั้นคือเหตุผลที่ RSI คือ ค่าเฉลียราคาส่วนได้ / ส่วนเสีย และนี้คือทั้งหมดของ RSI ^^ ซึ่งภายหลังเราจะไปนำวิเคราะห์ใช้ในทางอื่น ซึ่งสรุปแล้วเราคงต้องใช้การสังเกตุพฤติกรรมต่างๆเพื่อใช้ในการพิจารณาในรูปแบบของเราต่อไปโดยอ้างอิงจากการสังเกตุ สถิติ และการวิจัยต่างๆบ้าง

2.ผู้เล่นที่ใช้ Time Frame มากกว่ามีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ เพราะผู้เล่นเหล่านี้มองระยะไกลและถืออยู่ยาวนาน นั้นคือเหตุผลที่เขามีอิทธิพลเหนือผู้เล่นระยะสั้นกว่า เพราะมีการเข้าๆออกๆบ่อย หรือ ให้สรุปคนที่มองระยะยาวกว่า มีผลต่อตลาดมากกว่าคนที่มองระยะสั้นกว่า

ต่อไปนี้เป็นบทสรุปของ RSI จาก John hayden

RSI พื้นฐาน


RSI และจุดอันตรายของเทรน Danger TrenD


และสุดท้ายอัตราที่สัมพันธ์กับค่า RSI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น