วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทวิจัยการเกิด Divergence และหุ้นที่น่าสนใจ

ผมจะลงบทวิจัยของผมเองเกียวกับการเกิด Divergence ว่าเกิดจากสามารถอะไร และทำไมเวลาเกิด Divergence หลังจากนั้นราคามักจะวิ่งตลอด เป็นเพราะธรรมชาติของราคาหุ้น ซึ่งเกิดจาก Demand Supply ของคนหรือเกิดจากเพราะคนเราใช้เครื่องมือเหมือนๆกันเมื่อเกิดสัญญาณคนเราจึงมักจะทำไปในรูปแบบคล้ายๆกัน หรือทั้งสองเหตุผลมีความเกี่ยวเนื่องกัน แน่นอนผมเองคงไม่สามารถสรุปสิ่งนี้ได้ แต่ผมจะพยายามหาบทวิจัยอ่านหรือลองศึกษาไปเรื่อยๆ

ลองหาดูแล้วสรุป ก็เนื้อหาเดิม สูตรนั้นสูตรนี้ โอแม่เจ้า สรุปมีสาระ แต่มือใหม่ไม่เข้าใจเอาไปใช้ไม่ได้ 555
เริ่มจากพื้นฐานก่อนเลยแล้วกัน

RSI = ค่าเฉลี่ยได้/เสีย ของราคา ตาม Period ที่เรากำหนดขึ้นมายิ่งน้อยยิ่งแกว่งยิ่งมากยิ่งทรงตัว
สรุปมันก็คือ ค่าคงที่ ย้ำว่าคงที่ที่เกิดจากส่วนได้ ส่วนเสีย ( ราคาที่เปลี่ยนแปลง )
STO = ค่าการแกว่งของราคาสามอย่าง High Close & Low โอแม่งง่ายฉิปหายว่ากันตาม Period
สรุปมันก็คือ ค่าการแกว่งของราคาในห้วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง มีสองเส้น K กับ 3K (เส้น D ) เอาฮา 555
MACD = ค่าความแตกต่างของเส้นค่าเฉลี่ยสองค่าในห้วงเวลาหนึ่ง กับเส้นค่าเฉลี่ยของไอเส้นนี้
สรุปมันก็ค่าเฉลี่ยดีๆนี้เองไม่ได้มีไรเลย ตูละไม่ค่อยเข้าใจ

เอาเบาๆก่อนเนอะแต่จริงผมอยากแนะนำให้ลองดู BB กับ KT นะครับ มัน Make Sense ดี

สิ่งที่ RSI MACD SSTO เหมือนกันทั้งสามอย่างคือ
1.คำนวณจากราคาที่เกิดขึ้นแล้ว
2.มีค่าตายตัวแปรพันตามราคาที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกไหมน่าผมลองคิดดูแล้วมีความน่าจะเป็นที่
1.จะมีคนใช้เครื่องมือแบบนี้อยู่มากมายในประเทศ เพราะเกือบทุกเวปที่ผมไปเยือนมันก็มีเท่านั้น
2.ราคาเกิดจาก Demand & Supply ดังนั้น อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือ ความกลัว&โลภของคน

ผมได้ข้อสรุปดังนั indicator คือ สูตรชนิดหนึ่งที่มาจากคำนวณจากพฤติกรรมของมนุษย์(ราคาหรืออื่นๆ) จากนั้นเรานำมาศึกษาและดูความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น และนั้นคือเหตุผลที่เราไม่สามารถสร้าง Pattern เดียวและใช้ได้กับหุ้นทุกตัว เพราะอะไรๆๆๆ

*** เพราะใจคนมันเดายากไง 555 ก็หุ้น A กับหุ้น B คนเล่นมันก็คนละคนกันว่างั้น แต่ความน่าจะเป็นที่จะได้มากกว่าเสียมันก็มีอยู่
RSI ว่ากันค่าเฉลี่ยได้\เสีย = แรงของการซื้อขายนั้นเอง ( มันทำให้เกิดการได้ เสียไง )
STO ว่ากันด้วยการเปลี่ยนแปลงของราคา = แรงของราคาที่เปลี่ยนแปลงนั้นเอง ( แม่งเฉพาะราคาเพียวๆเจ๋งจริง )
MACD ว่ากันด้วยความแตกต่างของค่าเฉลี่ย = ความเป็นไปของราคาเฉลี่ยๆ ( โดยภาพรวมไง ไอคำว่าเฉลี่ยนี้มันภาพรวมป่ะ ) 555

โอเคผมรู้ว่าทำไมมันถึงเกิด Divergence แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึง Divergence และพฤติกรรมของคนเราพอเห็น Divergence ทำไมถึงต้องซื้อและขาย มันช่างน่างง จริงๆดูละงง

RSI โอเคผมได้ข้อสรุปที่โค๊ดง่ายเลย หลังจาก ExporT ข้อมูลมาดูนู้นดูนี้ดูอะไรต่อมิอะไรก็ สรุป แม่งต่างเวลา ต่างกรรมต่างวาระว่าง่าย - - กูจะบ้า
STO โอเคข้อสรุปเหมือนกันแม่งต่างกันแค่เวลา แต่ STO ว่ากันด้วยแรงของราคาเท่านั้น แต่ผมรู้สึก STO จะมีนัยยะสำคัญบางอย่างของการ Divergence ทั้งรูปแบบ Bearish และ Bullish Divergence เอาเป็นว่าผมจะศึกษาต่อไป
MACD ปกติแล้วจะเป็นไปในภาพรวมนะ MACD เพราะมันเป็นค่าเฉลี่ย แต่มีบ้างที่่เกิด Bullsih Bearish Divergence

งั้นผมสรุปเลย จริงๆไม่มีไรหรอก มันก็เกิด Divergence ของมันเป็นเรื่องธรรมดา มันก็แค่ต่างเวลากัน คนก็เอามากลัวต่างๆนาๆโลภบ้างอะไรบ้าง 555 โอเคในจุดผมเริ่มเข้าใจแหละว่า

Divergence มีไว้เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์หลังจากเกิด Dv แล้วราคาปรับไปในทิศทางที่ Bull or Bear ดังนั้น

*** นักเทคนิคที่ เข้าใจ พฤติกรรมของนักลงทุนรายอื่นได้ดีก็สามารถทำกำไรจากจุดนี้ได้ ***

ธรรมชาติของมนุษย์ เป็นเช่นใดเรา

***** ประสบการณ์ ความเข้าใจ ธรรมชาติของมนุษย์ คุณตอบโจทย์ข้อนี้ได้ไหม

เผยแพร่ธรรมครับ อกุศลมูล 3 อย่าง คือ โลภะ โทสะ โมหะ

ลองศึกษาสิ่งนี้ดู อกุศลกรรมบท 10 ว่าด้วย การเห็นผิด (ทิฏฐิ)

เอากันตรงๆจริงไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่มาวิจัยไปๆมาๆกลายเป็นเรื่องนี้ได้สะงั้น สงสัยมีสิ่งเกียวข้องกัน

โลภะ คือความชอบใจ ติดใจ อยากได้นี้ เป็นรากฐานแห่งโทสะเป็นบ่อเกิด ของโทสะเช่นเกิดชอบใจอยากได้สิ่งใดก็ตาม เมื่อไม่ได้ดังใจชอบก็เสียใจ น้อยใจ คือเกิดโทสะขึ้นหรือติดใจชอบใจในสิ่งใดอยู่ สิ่งนั้นกลับมีอันเป็นให้พลัดพรากจาก สูญไป ก็เสียดายเสียใจ กลุ้มใจ เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นถ้าไม่มีโลภะซึ่งเป็นต้นเหตุ แล้ว โทสะอันเป็นปลายเหตุก็ย่อมไม่มีเป็นธรรมดาส่วนโมหะ นั้นย่อมต้องเกิดพร้อมกับโลภะหรือโทสะ โดยมี โลภะ หรือโทสะ เป็นตัวนำโมหะเป็นตัวสนับสนุน เมื่อไม่มีโลภะตัวนำแล้ว โมหะตัวสนับสนุน ก็มีไม่ได้ เพราะไม่มีสิ่งที่จะสนับสนุน

ปล. ไม่ใช่วิจัยหรอกครับ แค่เอามาไขข้อสงสัยเฉยๆ ไม่รู้เรื่องธรรม มาได้ยังไง งงๆอยู่ - -"

เอาเป็นว่ามาดูหุ้นที่น่าสนใจก่อนซึ่งก็เกิด Bullish Divergence ทั้งนั้น พอดีได้มีโอกาสใช้ Basic Tech scan ใน e-fin เลยเอาให้ดูๆกัน

STA โรงงานยางหุ้น 20 เด้ง อันนี้ของจริง จาก 2 บาทไป 40 555

โอเคมดูกราฟ WeeK กันก่อนเกิด Divergence ทั้งใน RSI และ FSTO แนวรับ RSI 25-30 นะครับ

ต่อด้วยกราฟวัน แนวรับ RSI ถ้ายังทรงตัว 40 เพราะก่อนหน้านี้เคยหลุดไป ระดับ 20 เลยทีเดียว

True หุ้นหนี้โคดเยอะแต่ผมไม่รู้ทำไมหนี้เยอะก็ยังงงๆ
กราฟ WeeK RSI แนวรับ 30 นะครับ

กราฟ day แนวรับ RSI 40 เช่นกัน แต่เกิด Long Term Divergence แนวรับเบาๆ

เอาเป็นว่า 2 ตัวก่อนแล้วกันเนอะๆ เดียวยังไงมาเจาะลึกรายละเอียดต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น